Saturday, November 23, 2013

เดินทางสู่ไร่ชาฉุยฟงชาดีระดับโลกที่บ้านเรา อยากรู้ว่าเป็นยังไงก็ไปสิ!

วันนี้ตั้งใจจะไปเที่ยวที่ไร่ชาฉุยฟง ที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ตั้งใจจะไปหลายครั้งแล้วแต่ไม่เคยไปถึงสักที(รอบที่แล้วไปผิดที่ไว้กลับมาเล่าให้ฟังอีกที) ฉุยฟง(Chui Fong) เป็นไรชาที่เค้าว่ากันว่าดังที่สุดในเมืองไทยในตอนนี้ผลิตชาคุณภาพได้อันดับต้นๆของประเทศ มาตรฐานส่งออกนอกแถมยังได้รับรางวัลประกวดชาจากญี่ปุ่น มีละครไทยหลายๆเรื่องไปถ่ายทำที่ไร่ชาฉุยฟงแห่งนี้ หลายคนรู้จึงเดินทางไปตามรอยละครไทยที่นั่นกัน ทำให้ที่นี่เริ่มดังและหลายคนที่ไปมาแล้วก็กลับมาเล่าให้ผมฟังว่าสวยจริงๆไปแล้วไม่ผิดหวัง งั้นจะช้าทำไมก็ไปสิครับ!



ผมกับข้าวฟ่างออกเดินทางจากบ้านที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ด้วยรถยนต์ ALL NEW ISUZU DMAX 4X4 ของคุณชายเข็มพร(คุณพ่อของข้าวฟ่าง) ที่ใจดีให้เรายืมไปหลายๆที่มาแล้ว รถคันนี้ออกมาได้ไม่ถึงปีสภาพใหม่มากๆ ใช้จอดที่บ้านซะส่วนใหญ่เพราะคุณชายและคุณนายไม่ค่อยได้ไปไหน นานๆทีจะเข้าไปในเมืองเชียงใหม่ เป็นโอกาสอันดีที่เราจะทดสอบรถให้คุณชายไปในตัวครับ ^^

บ่ายสองโมงเริ่มต้นเดินทางจาก อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เป้าหมายคือไร่ชาฉุยฟงที่ อ.แม่จัน จ.เชียงใหม่ เราใช้ Google Map จากมือถือ iphone 4s ของข้าวฟ่างในการเดินทาง แม้ว่าในรถยนต์จะมีระบบ GPS นำทางติดรถมาให้ก็ตาม(แต่เราเชื่อ google map มากกว่าน่ะ อิอิ)

ขับรถออกจากบ้านสักพัก คิดในใจว่าอยากกินกาแฟสดร้อนๆ สักแก้วเพราะปกติผมจะดื่มกาแฟวันละแก้วเวลาใดก็ได้ขอให้ได้ดื่ม ก็สังเกตุเห็นป้ายข้างทางเล็กๆริมถนน ลองขับช้าๆเพ่งอ่านดู อ้อ "ร้านกาแฟเล่าต๋า อีก 3 กิโลเมตร" นั่นไงเราเลยตั้งใจจะลองแวะชิมกันดู

ผมเคยได้ยินชื่อเสียงของ "เล่าต๋า" มานานแล้วครับส่วนมากก็จากสื่อไทยและก็เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนัก แต่ผมไม่ค่อยเชื่อเท่าไรก็ฟังหูไว้หูละกัน(ไว้เห็นกับตาจะมาเล่านะ ^^) อะๆ เปลี่ยนเรื่องดีกว่าผมจำได้ว่าร้านกาแฟเล่าต๋า นี้เคยเห็นออกรายการทีวีด้วยนะแต่ไม่คิดว่าจะอยู่แถวนี้และกำลังจะได้แวะ!


สักพักก็มาถึงร้านกาแฟเล่าต๋า เลี้ยวซ้ายเข้ามาฟ้าบบบ สังเกตุว่าร้านตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมัน ESSO เก่าๆ ซึ่งตอนนี้น่าจะกลายเป็นเพียงที่จอดรถคนงาน(น่าจะเป็นคนงานของคุณเล่าต๋านะครับเดาเอา) มาถึงลงรถปั๊บโอ.."ร้านนี้ทำดีกว่าหลายๆร้านในเมืองเชียงใหม่อีกแหะ!"(อุทานในใจ)






กาแฟที่นี่อร่อยมากครับ(เกินกว่าที่คิด) เข้มขม กลมกล่อม ชงได้พอดี ใช้เครื่องชงระดับมืออาชีพ ร้านกาแฟเล่าต๋าทำได้ดีเหมือนร้านใหญ่ๆในตัวเมืองเชียงใหม่เลยล่ะ มีแอร์ มีที่นั่งด้านนอกและด้านใน มีอินเตอร์เน็ตไวไฟฟรีสำหรับบริการลูกค้า ที่สำคัญคนชงกาแฟเป็นสาวสวยชาวเขาเผ่าลีซอในชุดประจำเผ่า ได้บรรยากาศจริงๆครับ!

ผมมีเพื่อนเป็นชาวเขาเผ่าปะกากะญอ(หรือกระเหรี่ยง) ผมจำได้เคยถามเค้าว่า "สาวชาวเขาเผ่าอะไรสวยที่สุด?" เค้าบอกว่าเท่าที่เคยเจอมาสาวเผ่าลีซอสวยที่สุดในบรรดากลุ่มชนชาวเขาทั้งหมด วันนี้ผมเชื่อจริง! หลังจากเห็นกับตา ว่าแล้วก็อดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด่วนเลย ^^


เราสั่งกาแฟกันคนละแก้ว ผมอเมริกาโน่ร้อน ส่วนข้าวฟ่างมอคค่าเย็น หลังจากรับกาแฟจ่ายเงินข้าวฟ่างเอ่ยปากชมหลายครั้งว่ากาแฟอร่อยๆๆๆ ว่าแล้วเธอก็เอาหลอดดูดมาจ่อที่ปากให้ผมชิม อิม..อร่อยจริงด้วย! นั่งกินกาแฟชิวๆสักพักดูนาฬิกา อ้าวบ่ายสามโมงแล้ว รีบเดินทางต่อไปยัง อ.แม่จัน ดีกว่าเดี๋ยวจะมืดซะก่อนครับ


เส้นทางจาก อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ไปยังปลายทาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย เราดูจาก Google Map แล้วประมาณ 60 กิโลเมตร อื้อ..ไม่ไกลเท่าไร(ตอนแรกผมคิดว่าจะไกลกว่านี้ซะอีก) เส้นทางนั้นถือว่าเดินทางสบายไม่น่าเป็นห่วง ตลอดทั้งเส้นเป็นถนนราดยางทั้งหมด มีบางช่วงที่ถนนเป็นหลุมบ้างแต่ก็ไม่มาก พอจะขับหลบซ้ายหลบขวาให้หายง่วงเป็นระยะ ผมยังคิดว่าถ้าเอารถมอเตอร์ไซด์มาน่าจะสนุกกว่านี้ทำให้สัมผัสกับบรรยากาศรอบตัวได้ดีกว่านั่งในรถยนต์

สักพักประมาณหนึ่งชม. Google map ก็พาผมเข้าเขต อ.แม่จัน จ.เชียงราย เลี้ยวซ้ายผ่านไปสองสามแยกไฟแดง เจอถนนใหญ่รถเริ่มเยอะขึ้น(เพราะวันนี้เป็นวันศุกร์) ผมจอดติดไฟแดงเห็นรถยี่ห้อ Wolk ป้ายทะเบียนประเทศจีนจอดข้างหน้าเรา ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมจะตื่นเต้นและสนใจเป็นพิเศษ แต่เดี๋ยวนี้ชินชาแล้วครับเพราะคนจีนมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา(เค้าขับรถมาเองจากจีนเลยนะจ้ะ)

"อีกสี่กิโลถึงฉุยฟง" เสียงข้าวฟ่างบอกผมมาตลอดทาง เสมือนผมมีเนวิเกเตอร์ในการแข่งรถแรลลี่ สักพักบอกว่า "อีกหนึ่งกิโลให้ยูเทิร์น จะถึงแล้วนะ" ในใจผมคิด... ทำไมไม่เห็นมีภูเขาสักลูก นี่มันในเมืองอยู่เลย จะถึงแล้วเหรอเนี่ย??

พอถึงจุดหมายปลายทางตาม google map บอกไว้ เสียงข้าวฟ่างก็ดังชัดขึ้น "นี่ไงขวามือถึงแล้ว ยูเทิร์นด้านหน้านะ" หันไปดู อ้าวชิบ.. นี่มันฉุยฟงจริงๆด้วย ผมยูเทิร์นกลับไปแล้วตบไฟเลี้ยวซ้าย โอ้ถึงแล้ว "ร้านชาฉุยฟง" ถึงแล้วจริงๆเพราะตรงนี้คือหน้าร้านหรือออฟฟิศของบริษัทชาฉุยฟง ไม่ใช่ไร่ชาที่เราอยากไป...แงว..


พอมาผิดที่ข้าวฟ่างหัวเราะ ฮ่าๆๆ ว่าแล้วก็รีบลงรถ(เหมือนละอายใจเล็กน้อยที่พามาผิดที่ ฮ่าๆ)เพื่อไปสอบถามเส้นทางไปไร่ชาที่เราต้องการ เจ้าหน้าที่ให้แผนที่มา โอ้..อีกแค่ 4 กิโลเมตรจากที่นี่ เฮ้อ..โล่งใจมันอยู่ไม่ไกลครับ เราใกล้แล้ว....แค่พลาดไปนิดส์


เราขับรถไปตามแผนที่ครับ อีกประมาณไม่เกินสิบกิโล และแล้วเราก็มาถึงครับไร่ชาฉุยฟง สวยงามจริงๆ กว้างมากกกกกก สุดลูกหูลูกตาเป็นไร่ชาสีเขียวหมดเลย เข้ามาเราเห็นรถของนักท่องเที่ยวจอดอยู่บนเขาไกลลิบๆ นับสิบคัน เราจะขึ้นไปที่นั่นตรงโรงงานผลิตชาและร้านชาของฉุยฟง



ร้านชาของฉุยฟงเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมานั่งจิบชาพร้อมกับสัมผัสบรรยากาศของไร่ชาจากจุดชมวิว ร้านชาที่นี่ทำได้ดี มีเมนูชาทุกอย่างเท่าที่จะหาได้ มีเค้กชาหลายอย่าง มีที่นั่งรองรับนักท่องเที่ยวได้หลายสิบโต๊ะ ผมแอบเห็นที่ส่วนที่กำลังก่อสร้างปรับปรุงขยายเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวให้มากกว่านี้ด้วยละ(แสดงว่าคนเยอะขึ้นเรื่อยๆแน่นอน)


บรรยากาศโดยรวมของไร่ชาฉุยฟงสวยงามมากครับตั้งอยู่บนเนินเป็นระเบียงยื่นลงไปไหล่เขา มีมุมถ่ายรูปสวยหลายที่ นอกจากจุดชมวิวของร้านชาเราสามารถขับรถไปตามยอดเขาเล็กๆ ซึ่งเป็นจุดชมวิวย่อยๆ ของที่นี่ แต่สำหรับวันนี้ผมถ่ายรูปไม่สนุกเท่าไหร่เพราะนักท่องเที่ยวเยอะมาก(อาจเพราะวันศุกร์ด้วย) และเป็นธรรมดาที่เมื่ออากาศเริ่มหนาวนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดก็มากขึ้น




ดูรูปที่เหลือได้ที่นี่ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.560537274026842.1073741828.560531307360772&type=3

ร้านชาของไร่ฉุยฟงปิดเวลาห้าโมงเย็นครึ่ง ทำให้เรามีเวลาในการนั่งชิมชาได้ไม่นานนักเพราะกว่าจะมาถึงก็ปาไปสี่โมงกว่าแล้ว เราลองสั่งชาเขียวมาคนละแก้วและเค้กชาเขียวอีกหนึ่ง รสชาติอร่อยไม่ผิดหวังครับ ชาหอมสุดๆ เค้กใช้ครีมสดอร่อยหอมมัน ไม่หวานมากเกิน กินไปนั่งดูบรรยากาศคนเดินไปเดินมาถ่ายรูปจนลายตา บอกตรงๆครับไม่ค่อยชอบบรรยากาศวุ่นวายแบบนี้เท่าไหร่ (คิดในใจถ้ามาตอนช่วงคนน้อยบรรยากาศจะสุดยอดกว่านี้นะเนี่ย)..





เรากินหมดอย่างรวดเร็วครับ แล้วก็นั่งคิดอยู่ว่าจะไปถ่ายรูปมุมไหนดีนะ ข้าวฟ่างเสนอว่ามีมุมที่ขับผ่านมาตรงนู้นสวยหลายที่เลย โอเค! ผมขับรถย้อนกลับไปที่จุดชมวิวที่ผ่านมาในตอนแรก มุมนี้แหละคนน้อยดี ผมตัดสินใจจอดรถแล้วก็ลงถ่ายรูปเล่นกันตรงนี้ ก็พอถ่ายขำๆแต่ไม่ได้เอาขาตั้งกล้องมาซะนี่สิ! แย่จุงเบย..ใครที่ชอบถ่ายรูปจะรู้ว่าแสงน้อยแบบนี้จำเป็นมากนะครับสำหรับขาตั้งกล้อง แต่ไม่เป็นไรถ่ายพอขำๆ ไม่งั้นนะฮึ่ม..จะได้รูปส่งประกวดกับเขาบ้างสิน่า! ครับเพิ่งเห็นว่าทางไร่ชาฉุยฟงเค้ามีประกวดถ่ายรูปชิงเงินรางวัลตั้ง สามหมื่นบาทแน่ะ!!!





สักพักอากาศเริ่มเย็น แสงอาทิตย์หมดจริงๆครับ ดัน ISO สูงๆก็เริ่มไม่ไหว แถมไม่พออาการหวัดมาแล้ว เอาละซี่เริ่มจามฮัดชิ้วๆ ผมต้องขอตัวเข้าไปนั่งในรถอุ่นๆก่อนนะครับ งั้นหวัดเล่นงานไม่หายง่ายๆแน่นอน อยากหายเร็วๆแล้ว เจอกันการเดินทางครั้งต่อไปนะครับวันนี้แค่นี้ก่อน ลากันด้วยรูปแสงสุดท้ายนะครับ ฮัดดด..ชิ้วววว!






ดูรูปที่เหลือได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.560537274026842.1073741828.560531307360772&type=3



สามารถกด Like เพื่อติดตามการเดินทางของผมได้ที่ facebook fanpage ได้เลย

ตรงไหนผมพลาดไป หรืออยากสอบถามไม่ต้องเกรงใจที่จะ comment นะครับ
กรุณาสุภาพด้วยขอบคุณครับ ^^


No comments:

Post a Comment