Sunday, December 1, 2013

ตามหาต้นกำเนิดกาแฟระดับโลกที่ดอยช้าง ตอนที่ 3 ถึงแล้วครับดอยช้าง

ถึงแล้วครับ กาแฟดอยช้าง ครับที่ผมบอกว่าถึงคือผมขับรถมาถึงร้านและลานตากกาแฟของโรงงานผลิตกาแฟของดอยช้างจริงๆแล้วนั่นเอง! แท่นแท้น...โอ้โหลานกว้างๆมีเมล็ดกาแฟที่ตากอยู่เต็มไปหมดเลยครับ มองไปด้านในเป็นโรงงานใหญ่ๆ มีโลโก้กาแฟดอยช้างเห็นชัดเจน ด้านหน้าโรงงานมีธงชาติไทยผืนเบ้อเริ่มผูกบนเสาธงยักษ์ที่มองไกลๆเหมือนกับต้นไม้ใหญ่ที่โดนไฟคลอกสีดำๆมากกว่า ฮ่า..




ผมขับเลยลานตากไปแล้วเข้าซ้ายจอดรถที่ร้าน A-ROY ผมอ่านว่า "อะหร่อย" หวังคงอ่านถูกนะครับ ร้าน อะหร่อย ผมเดว่าเป็นร้านเพิ่งสร้างใหม่ได้ไม่นานเพราะดูแล้วสภาพร้านยังใหม่ๆเลย เห็นมีโลโก้ดอยช้างและเบียร์สิงห์ติดอยู่ เลยเดาว่าน่าจะเป็นของทางกาแฟดอยช้างเอานั่นแหละ น่าจะสร้างเพื่อรองรับลูกค้าและนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมโรงงานและผ่านไปผ่านมาโดยเฉพาะ

ผมจอดรถที่หน้าร้านโดยไม่ซื้ออะไรเลย หุหุ แล้วเดินย้อนกลับไปที่ลานตากกาแฟของดอยช้างเห็นคนงานสามสี่คนกำลังถือไม้คราดก้มๆเงยๆกวาดหรือเกลี่ยเมล็ดกาแฟบนพื้นที่รองด้วยผ้าใบและเต็มไปด้วยเมล็ดกาแฟ ผมเดินเข้าไปถามประมาณว่ามีที่พักแถวนี้ไหมครับ พี่สาวตอบกลับมาแบบผมฟังไม่รู้เรื่องเลย เลยถึงบางอ้อ อ่อ..พวกเค้าคงไม่ใช่คนแถวนี้ ผมเลยทำหน้าพยักหงึกๆไปตามนั้นเพื่อหวังจะจบการสนทนาให้เร็วที่สุด ฮ่าๆ  เลยถ่ายรูปแชะๆมาสองสามรูปครับ ตอนผมกำลังถ่ายรูปข้าวฟ่างแซวว่า "ถ่ายรูปไปเรื่อยเดี๋ยวเค้าเอาสไนเปอร์ส่องนะ" ผมฟังแล้วก็ชะงักเหมือนกันนะ ฮ่า..แอบกลัวว่าเขาอาจห้ามถ่ายรูปก็ได้นะ?



ผมเดินเข้าประตูหลักของโรงงานดอยช้างในที่สุดก็เจอ "ร้านกาแฟดอยช้างสาขาใหญ่" มองเข้าไปเห็นคนนั่งกินกาแฟหลายคนเลยครับ แอบเห็นลุงหนวดขาวๆเจ้าของดอยช้างด้วยแหะ อิอิ พลันนึกในใจโอ้เราน่าจะรอดแล้ว... ที่สาธารณะแบบนี้ถ่ายรูปได้ไม่น่าโดนยิง ฮ่าๆๆ



ร้านกาแฟที่นี่มีสองชั้นครับ ใช้เครื่องชงกาแฟอย่างดีเลยนะสามหรือสี่หัวกรุ๊ป พนักงานชงก็พูดคุยดี ให้ข้อมูลเยี่ยม ตอนผมเดินไปดูกาแฟที่ชั้นวางที่ดอยช้างขายก็มีพนักงานเดินมาให้ข้อมูลดีมาก ผมขี้สงสัยก็เลยถามนู่นถามนี่เยอะแยะมากมาย กาแฟที่นี่มีเยอะหลายประเภทย่อยจริงๆครับ ทั้งเม็ดเกรดรวม เกรดดีมาก เม็ดพีเบอร์รี่ หรือ เกรดสุดยอดอย่างขี้ชะมด(Cevet Coffee)ก็มี คนชอบกินกาแฟน่าจะชอบเหมือนผม นอกจากกาแฟก็ยังมีชาอู่หลง น้ำผึ้ง หนังสือ แก้ว เสื้อ ผ้าเช็ดหน้า โดยทุกอย่างคือของดอยช้างทั้งหมดครับ อ้อเกือบลืมที่นี่มีเค้กด้วยครับ "ที่สำคัญกาแฟขี้ชะมดแก้วละ 300 บาทค่ะ"




ผมกับข้าวฟ่างสั่งกาแฟคนละแก้วและเค้กอีกสองชิ้น สั่งแล้วก็ขึ้นไปนั่งด้านบนกันครับเพราะอยากเห็นวิวลานตากกาแฟจากด้านบนให้ชัดๆ เดินขึ้นบันไดไม้ขึ้นมาแล้วไม่มีคนเลยแหะ หุหเสร็จโจรแอบเสียบชาร์จแบตมือถือกับเล่นโน๊ตบุ๊คได้สบายเลย อ้อ!เค้ามีบริการ Wifi ฟรีด้วยนะ อย่าคิดว่าอยู่บนดอยแล้วจะตัดขาดจากโลกภายนอกนะตะเองสมัยนี้ไปถึงหมดแล้วจ้า ฮี่ๆๆ วันนี้น้องพนักงานข้างล่างบอกว่าเค้ามีงานสัมมนาเกี่ยวกับกาแฟคนเลยเยอะเป็นพิเศษ มิน่าล่ะผมเห็นแต่รถป้ายทะเบียน กทม. เต็มเลย รู้งี้ลงทะเบียนสัมมนาด้วยก็ดีเนาะ หุหุ

หลังจากินกาแฟกับเค้กเรียบร้อยผมก็เดินลงไปหาซื้ออะไรติดไม้ติดมือเป็นที่ระลึกสักหน่อย เดินตั้งนานได้มาสี่อย่างคือกาแฟดอยช้างเกรดรวม 1 ถุง, หนังสือกาแฟดอยช้าง 1 เล่ม, หนังสือกาแฟขี้ชะมด 1 เล่ม และ แก้วกาแฟช็อตสีดำติดโลโก้ดอยช้าง 1 แก้ว รวมแล้วห้าร้อยกว่าบาทครับ







หลังจากอิ่มกับการเสพบรรยากาศร้านกาแฟ ตอนนี้เราสองคนเริ่มคิดถึงเรื่องที่พักครับว่าจะพักที่นี่หรือกลับบ้านดี ข้าวฟ่างบอกอยากกลับแต่ผมกลับอยากอยู่ต่อ จริงๆแล้วจะกลับ อ.แม่อาย ก็ใช้เวลาไม่นานนะแต่ใจผมอยากนอนค้างที่นี่สักคืนมากกว่าเพราะไหนๆก็มาแล้ว อยากเห็นบรรยากาศหมู่บ้านดอยช้างตอนเช้า อยากเห็นคนเก็บกาแฟ ที่สำคัญขี้เกียจขับรถกลับเหมือนกัน

แต่ปัญหาตอนนี้คือ
  • ผมไม่ได้จองห้องพักล่วงหน้า
  • จะมีห้องเหลือให้เรามั้ยนะ? 
  • ห้องราคาเท่าไหร่? 
  • มีเงินสดติดกระเป๋าแค่ 700 เอง (ไม่น่าซื้อของไปห้าร้อยกว่าเลย)
  • ตู้ ATM ตู้เดียวของที่นี่ เห็นตรงที่เราจอดรถก็ติดป้ายตู้เสีย
  • แถมยังมีคนมาสัมมนาอบรมจาก กทม.เยอะแยะ 
  • และที่พักไปทางไหน? นี่ก็สี่โมงเย็นแล้ว



เราจะไปพักที่ไหนในดอยช้างและอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไปครับ



เพื่อนๆสามารถกด Like เพื่อติดตามการเดินทางของผมได้ที่ facebook fanpage นะครับ
ตรงไหนข้อมูลพลาดไป หรืออยากสอบถามไม่ต้องเกรงใจที่จะ comment นะครับ
ขอความกรุณาคอมเม้นด้วยความสุภาพนะครับ ขอบคุณครับ




Tuesday, November 26, 2013

ตามหาต้นกำเนิดกาแฟระดับโลกที่ดอยช้าง ตอนที่ 2 เส้นทางสู่ดอยช้าง

เส้นทางประมาณร้อยกว่ากิโลจาก อ.แม่อาย ปลายทางคือ บ้านดอยช้าง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ผมเลี้ยวซ้ายตรงสามแยกบ่อน้ำมันฝาง เลี้ยวมาสักพักจะขับผ่านโรงกลั่นน้ำมันฝางอยู่ซ้ายมือแปลกตาดีครับ ใครจะคิดว่าโรงกลั่นน้ำมันจะมาอยู่บนที่สูงได้นะ

เส้นทางนี้เป็นทางสองเลนรถวิ่งสวนกัน แต่ทางโดยรวมดีมากนะครับถนนกว้าง มีไหล่ทางและที่กั้น ทำให้ผมขับรถเร็วได้บ้างเป็นระยะ มีเหยียบร้อยกว่านิดๆ สองสามทีแน่ะ... บางช่วงของการเดินทางผมเจอรถขนกระหล่ำของชาวบ้านและรถบรรทุกหกล้อ ทั้งขับนำหน้าและสวนทางมาพอให้ได้เสียวบ้างแต่ก็แซงได้ไม่ยากนัก เส้นทางนี้ผมเคยคุยกับคนในพื้นที่(คือคุณชายเข็มพร) บอกว่าเป็นทางเส้นเก่าที่เชื่อม อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ กับ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย คนเมื่อก่อนใช้ถนนเส้นนี้เป็นหลัก ส่วนทางเส้นใหม่คือเส้นที่ไปทางบ้านท่าตอน อ.แม่อาย ปลายทางติด อ.แม่จัน(ทางไปไร่ชาฉุยฟงที่ผมไปมาครั้งก่อนนี้) ดังนั้นหากเดินทางด้วยเส้นนี้รถจะไม่ค่อยมากเท่าไหร่


เส้นทางคดเคี้ยวมีขึ้นเขาช่วงกลางของการเดินทาง ต้องใช้เกียร์ต่ำบ่อย สองข้างทางมีจุดให้จอดรถพักรถกันได้บ้าง ทำให้ผมได้มีโอกาศชมวิวทิวทัศน์ ถ่ายรูป ได้บิดเอวดังลั่นกร๊อบแกร๊บ หายเมื่อยหลังเมื่อยเอวไปบ้าง แม้จะยังไม่แก่เท่าไหร่ก็เริ่มเมื่อยแล้วนะครับ หะๆ



วันนี้เมฆสวยท้องฟ้าใสครับ อากาศกำลังดีเมื่อวานฝนยังตกอยู่เลย


มองไปเห็นหมู่บ้านชาวเขาเป็นระยะครับ

พอผมถึงแยกแม่สรวยให้เลี้ยวซ้ายไปอีกสักพักก็จะเห็นป้ายทางไปดอยช้างกับดอยวาวีครับ เลี้ยวซ้ายโลดจ้า ป้ายบอกว่าขึ้นไปดอยช้างอีก 20 กิโล เลี้ยวขึ้นไปถนนเริ่มแคบลงมานิดครับ จากแยกใหญ่มาสักพักน่าจะประมาณ 4-5 กิโล จะเจอสามแยกเล็กแยกให้เลี้ยวขวา ป้ายบอกว่าไปดอยช้างอีก 15 กิโลเมตร จากจุดนี้สามารถตรงไปถึงดอยวาวีได้ครับอีก 43 กิโลแน่ะ ขากลับผมจะกลับทางนี้นะครับ จะได้สัมผัสสองเส้นทางที่แตกต่างกัน ^^






บรรยากาศตอนนี้มองซ้ายมือเห็นน้ำจากเขื่อนแม่สรวย เหมือนทะเลสาบสวยดีเหมือนกันแหะ


เข้าแยกเล็กมาสักพักเจอสัญลักษณ์นี้ก็พอทราบนะครับ ว่ารถบรรทุกเยอะ เอ้ยไม่ใช่! ใช้เกียร์ต่ำนะครับ


ทางจากแยกสุดท้ายปากทางขึ้นไปหมู่บ้านดอยช้างผมคิดว่าเป็นเส้นทางที่ท้าทายและสนุกในการเดินทางอย่างแท้จริงนะ ถนนแคบลง ต้องตั้งสติขับรถมากขึ้นอีกหน่อย มีหลุมเป็นระยะจากฝนตกน้ำขังให้ผมหายง่วงได้เป็นระยะๆ รถสวนมาทีนึงลุ้นกันสนุกดีเพราะว่ามีหญ้าขึ้นข้างทาง หญ้าสูงๆอะครับ ผสมกับต้นไมยราบ(เขียนไงหว่า)เลยขอบกินถนนเข้ามาเยอะเลยครับ บางช่วงซ้ายมือ ขวามือเป็นเหวลึกลงไป(แต่ก็ยังดีมีที่กั้นอยู่นะ) เราเริ่มขึ้นสู่ที่สูงจากระดับน้ำทะเลเกิน 1 พันเมตรแล้วครับ เห็นดอยหลายลูกสุดลูกตาดอยส่วนใหญ่เหมือนคนหัวล้านไม่มีผมครับ ฮ่า.. ผมชอบเรียก "ภูเขาหัวโล้น"



พอใกล้จะถึงดอยช้างทางก็เริ่มชันครับ ผมเริ่มเห็นรถกระบะวิ่งสวนมามากขึ้นนะ เห็นรถบรรทุกต่างคนงาน มีคันนึงใส่ชุดชาวเขาเผ่าอาข่าต่างมาเต็มรถเลยไม่รู้ว่าไปไหนหรือกลับมาจากไหนกันก็แปลกตาดีครับ นั่นไง!มีรถเก๋งสวนมาบ้างทางมันไม่เลวร้ายเกินไปเพราะยังมีคนเอาเก๋งมานะ(นึกในใจว่าใจถึงฝุดๆ) ชำเลืองมองป้ายส่วนมากเป็นป้ายทะเบียน กทม.ออ สงสัยเพราะอากาศเริ่มหนาวคนเที่ยวเลยเยอะมั้ง และตอนนี้เราใกล้ถึงดอยช้างแล้วครับ อีกไม่กี่กิโลเอง..


ผมกำลังจะถึงดอยช้างแล้วครับ...โปรดติดตามตอนต่อไป

สามารถกด Like เพื่อติดตามการเดินทางของผมได้ที่ facebook fanpage ได้เลย

ตรงไหนผมพลาดไป หรืออยากสอบถามไม่ต้องเกรงใจที่จะ comment นะครับ
แต่ว่าขอความกรุณาคอมเม้นด้วยความสุภาพนะครับ ขอบคุณครับ ^^





ตามหาต้นกำเนิดกาแฟระดับโลกที่ดอยช้าง ตอนที่ 1 คำนวนเส้นทาง

กาแฟดอยช้าง วันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก ยิ่งเป็นคอกาแฟตัวจริงคงสงสัยกันว่าทำไมอยู่ดีๆกาแฟดอยช้างถึงมีชื่อเสียงขึ้นมาได้ วันนี้ผมตั้งใจจะขับรถไปถึงดอยช้าง อ.วาวี จ.เชียงราย ครับหลักๆคือ กินกาแฟมาก็นาน ติดใจในรสชาติของกาแฟดอยช้างที่ขมเข้มยิ่งนัก เลยอยากไปเห็นเหลือเกินว่าแหล่งผลิตกาแฟใกล้ๆบ้านเราแค่นี้ที่ไปถึงระดับโลกได้ หน้าตาเป็นยังไง? อีกใจนึงคืออยากไปถ่ายรูปต้นกาแฟกับบรรยากาศหมู่บ้านชาวเขาครับ



เราวางแผนการออกเดินทางจาก อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่เช่นเคย โดยรถ 4x4 คันเดิม All new Isuzu D-max ของคุณชายเข็มพรครับ หมดทริปรอบนี้คงต้องได้เอาไปล้างที่ร้านก่อนส่งมอบรถคืนแน่นอนเพราะฝุ่นเริ่มจับบ้างแล้ว เราสตาร์ทรถประมาณ 11 โมงกว่าๆเกือบเที่ยงแน่ะ จริงๆแล้วเราคุยกันเมื่อคืนก่อนนอนว่าอยากออกบ้านเช้าๆสักแปดเก้าโมง ที่ไหนได้ตื่นสายตามเคย ^^! หลังจากกินข้าวเที่ยงแล้วเราก็นั่งเปิดแผนที่ปรึกษาการเดินทางกันก่อน ด้วย Google map(เจ้าเก่า) ลองคำนวนเส้นทางแล้ว อ้า..ไม่ไกลประมาณ 80 กิโลเมตร น่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ชม.กว่าๆ(โดยพี่กูคำนวนให้) ฉะนั้นดีแล้วล่ะที่ไม่รีบตื่นเช้าหุหุ (ข้ออ้างชัดๆ)



เส้นทางไปดอยช้างถ้าเริ่มต้นจาก อ.แม่อาย หรือ อ.ฝาง เราสามารถไปได้สองเส้นทางครับ ระยะทางห่างกันพอสมควร แต่เส้นทางที่ใกล้กว่าใช่ว่าจะไปถึงเร็วกว่านะครับลองอ่านรายละเอียดดู ความแตกต่างอีกอย่างคือบรรยากาศในการเดินทาง วันนี้ผมจะไปและกลับคนละเส้นทางเพื่อที่จะได้เสพบรรยากาศการเดินทางทั้งสองเส้นทางดูครับ

  • เส้นทางที่หนึ่งเรียกว่า "เส้นทางชนเผ่า" (ผมบัญญัติศัพท์เองนะครับ) คือจาก อ.แม่อาย มุ่งไปทางตะวันออกเฉียงเหนือไปทางบ้านท่าตอน แล้วแยกขวาลงไป >> ผ่านหมู่บ้านคนจีน >> ผ่านหมู่บ้านชาวเขา >> ผ่านหมู่บ้านวาวี >> บ้านโป่งกลางน้ำ จากนั้นแยกซ้ายอีกครั้ง ไปอีกประมาณ 9 กม. ก็จะถึงหมู่บ้านดอยช้าง รวมระยะทางเส้นทางนี้ประมาณ 72 กิโลเมตรครับ Google Map บอกว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 37 นาทีจากเส้นทางนี้ครับ
  • ส่วนเส้นทางที่สองผมขอเรียกว่า "เส้นทางหลักทำเวลา" เป็นเส้นทางที่ผมจะใช้ในการเดินทางขาไปในวันนี้ เราย้อนลงไปทาง อ.ฝาง >> เลี้ยวซ้ายที่สามแยกบ่อน้ำมัน >> ผ่านผมู่บ้านตรงไปตามทางเรื่อยๆจนไปเจอสามแยก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย >> เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลักอีกประมาณ 2 กิโล >> เลี้ยวซ้ายอีกครั้งตรงปากทางเข้าดอยช้างไปอีก 5 กิโล >> เลี้ยวขวาขึ้นเส้นทางไหล่เขาอีก 14 กิโล รวมทั้งหมดประมาณ 111 กิโลเมตรครับสำหรับเส้นทางนี้ Google Map รายงานว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ชม.นิดๆ
สรุปขาไปผมจะไปเส้นทางหลักทำเวลาครับ ดูแล้วน่าจะทำเวลาได้ดีกว่าทางแรก แม้ว่าทางเส้นนี้จะดูไกลกว่าเส้นแรกนิดหน่อย แต่จากการเคยวิ่งเส้นนี้มาครั้งตอนกลับจากเชียงรายไม่นานมานี้นึงถนนมันดีกว่าเส้นแรกพอสมควรเลยล่ะครับ(เส้นแรกเคยไปมาทีนึงแต่ไม่ถึงดอยช้างครับ)

ส่วนใครที่เริ่มต้นเส้นทางจากที่อื่น เช่น กทม. หรือ เชียงใหม่ ผมว่าใช้ Google Map นี่แหละง่ายสุดๆเลยครับ แค่กำหนดจุดเริ่มต้น กับ ปลายทาง พี่แกคำนวนเวลาและระยะทางให้เรียบร้อยเลยครับ ลองหัดใช้กันดูนะครับแล้วคุณจะหลงรักพี่ "กู"

การเดินทางไปดอยช้างเพิ่งจะเริ่มต้นโปรดติดตามตอนต่อไปครับ...

สามารถกด Like เพื่อติดตามการเดินทางของผมได้ที่ facebook fanpage ได้เลย

ตรงไหนผมพลาดไป หรืออยากสอบถามไม่ต้องเกรงใจที่จะ comment นะครับ
แต่ว่าขอความกรุณาคอมเม้นด้วยความสุภาพนะครับ ขอบคุณครับ ^^

Saturday, November 23, 2013

เดินทางสู่ไร่ชาฉุยฟงชาดีระดับโลกที่บ้านเรา อยากรู้ว่าเป็นยังไงก็ไปสิ!

วันนี้ตั้งใจจะไปเที่ยวที่ไร่ชาฉุยฟง ที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ตั้งใจจะไปหลายครั้งแล้วแต่ไม่เคยไปถึงสักที(รอบที่แล้วไปผิดที่ไว้กลับมาเล่าให้ฟังอีกที) ฉุยฟง(Chui Fong) เป็นไรชาที่เค้าว่ากันว่าดังที่สุดในเมืองไทยในตอนนี้ผลิตชาคุณภาพได้อันดับต้นๆของประเทศ มาตรฐานส่งออกนอกแถมยังได้รับรางวัลประกวดชาจากญี่ปุ่น มีละครไทยหลายๆเรื่องไปถ่ายทำที่ไร่ชาฉุยฟงแห่งนี้ หลายคนรู้จึงเดินทางไปตามรอยละครไทยที่นั่นกัน ทำให้ที่นี่เริ่มดังและหลายคนที่ไปมาแล้วก็กลับมาเล่าให้ผมฟังว่าสวยจริงๆไปแล้วไม่ผิดหวัง งั้นจะช้าทำไมก็ไปสิครับ!



ผมกับข้าวฟ่างออกเดินทางจากบ้านที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ด้วยรถยนต์ ALL NEW ISUZU DMAX 4X4 ของคุณชายเข็มพร(คุณพ่อของข้าวฟ่าง) ที่ใจดีให้เรายืมไปหลายๆที่มาแล้ว รถคันนี้ออกมาได้ไม่ถึงปีสภาพใหม่มากๆ ใช้จอดที่บ้านซะส่วนใหญ่เพราะคุณชายและคุณนายไม่ค่อยได้ไปไหน นานๆทีจะเข้าไปในเมืองเชียงใหม่ เป็นโอกาสอันดีที่เราจะทดสอบรถให้คุณชายไปในตัวครับ ^^

บ่ายสองโมงเริ่มต้นเดินทางจาก อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เป้าหมายคือไร่ชาฉุยฟงที่ อ.แม่จัน จ.เชียงใหม่ เราใช้ Google Map จากมือถือ iphone 4s ของข้าวฟ่างในการเดินทาง แม้ว่าในรถยนต์จะมีระบบ GPS นำทางติดรถมาให้ก็ตาม(แต่เราเชื่อ google map มากกว่าน่ะ อิอิ)

ขับรถออกจากบ้านสักพัก คิดในใจว่าอยากกินกาแฟสดร้อนๆ สักแก้วเพราะปกติผมจะดื่มกาแฟวันละแก้วเวลาใดก็ได้ขอให้ได้ดื่ม ก็สังเกตุเห็นป้ายข้างทางเล็กๆริมถนน ลองขับช้าๆเพ่งอ่านดู อ้อ "ร้านกาแฟเล่าต๋า อีก 3 กิโลเมตร" นั่นไงเราเลยตั้งใจจะลองแวะชิมกันดู

ผมเคยได้ยินชื่อเสียงของ "เล่าต๋า" มานานแล้วครับส่วนมากก็จากสื่อไทยและก็เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนัก แต่ผมไม่ค่อยเชื่อเท่าไรก็ฟังหูไว้หูละกัน(ไว้เห็นกับตาจะมาเล่านะ ^^) อะๆ เปลี่ยนเรื่องดีกว่าผมจำได้ว่าร้านกาแฟเล่าต๋า นี้เคยเห็นออกรายการทีวีด้วยนะแต่ไม่คิดว่าจะอยู่แถวนี้และกำลังจะได้แวะ!


สักพักก็มาถึงร้านกาแฟเล่าต๋า เลี้ยวซ้ายเข้ามาฟ้าบบบ สังเกตุว่าร้านตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมัน ESSO เก่าๆ ซึ่งตอนนี้น่าจะกลายเป็นเพียงที่จอดรถคนงาน(น่าจะเป็นคนงานของคุณเล่าต๋านะครับเดาเอา) มาถึงลงรถปั๊บโอ.."ร้านนี้ทำดีกว่าหลายๆร้านในเมืองเชียงใหม่อีกแหะ!"(อุทานในใจ)






กาแฟที่นี่อร่อยมากครับ(เกินกว่าที่คิด) เข้มขม กลมกล่อม ชงได้พอดี ใช้เครื่องชงระดับมืออาชีพ ร้านกาแฟเล่าต๋าทำได้ดีเหมือนร้านใหญ่ๆในตัวเมืองเชียงใหม่เลยล่ะ มีแอร์ มีที่นั่งด้านนอกและด้านใน มีอินเตอร์เน็ตไวไฟฟรีสำหรับบริการลูกค้า ที่สำคัญคนชงกาแฟเป็นสาวสวยชาวเขาเผ่าลีซอในชุดประจำเผ่า ได้บรรยากาศจริงๆครับ!

ผมมีเพื่อนเป็นชาวเขาเผ่าปะกากะญอ(หรือกระเหรี่ยง) ผมจำได้เคยถามเค้าว่า "สาวชาวเขาเผ่าอะไรสวยที่สุด?" เค้าบอกว่าเท่าที่เคยเจอมาสาวเผ่าลีซอสวยที่สุดในบรรดากลุ่มชนชาวเขาทั้งหมด วันนี้ผมเชื่อจริง! หลังจากเห็นกับตา ว่าแล้วก็อดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด่วนเลย ^^


เราสั่งกาแฟกันคนละแก้ว ผมอเมริกาโน่ร้อน ส่วนข้าวฟ่างมอคค่าเย็น หลังจากรับกาแฟจ่ายเงินข้าวฟ่างเอ่ยปากชมหลายครั้งว่ากาแฟอร่อยๆๆๆ ว่าแล้วเธอก็เอาหลอดดูดมาจ่อที่ปากให้ผมชิม อิม..อร่อยจริงด้วย! นั่งกินกาแฟชิวๆสักพักดูนาฬิกา อ้าวบ่ายสามโมงแล้ว รีบเดินทางต่อไปยัง อ.แม่จัน ดีกว่าเดี๋ยวจะมืดซะก่อนครับ


เส้นทางจาก อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ไปยังปลายทาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย เราดูจาก Google Map แล้วประมาณ 60 กิโลเมตร อื้อ..ไม่ไกลเท่าไร(ตอนแรกผมคิดว่าจะไกลกว่านี้ซะอีก) เส้นทางนั้นถือว่าเดินทางสบายไม่น่าเป็นห่วง ตลอดทั้งเส้นเป็นถนนราดยางทั้งหมด มีบางช่วงที่ถนนเป็นหลุมบ้างแต่ก็ไม่มาก พอจะขับหลบซ้ายหลบขวาให้หายง่วงเป็นระยะ ผมยังคิดว่าถ้าเอารถมอเตอร์ไซด์มาน่าจะสนุกกว่านี้ทำให้สัมผัสกับบรรยากาศรอบตัวได้ดีกว่านั่งในรถยนต์

สักพักประมาณหนึ่งชม. Google map ก็พาผมเข้าเขต อ.แม่จัน จ.เชียงราย เลี้ยวซ้ายผ่านไปสองสามแยกไฟแดง เจอถนนใหญ่รถเริ่มเยอะขึ้น(เพราะวันนี้เป็นวันศุกร์) ผมจอดติดไฟแดงเห็นรถยี่ห้อ Wolk ป้ายทะเบียนประเทศจีนจอดข้างหน้าเรา ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมจะตื่นเต้นและสนใจเป็นพิเศษ แต่เดี๋ยวนี้ชินชาแล้วครับเพราะคนจีนมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา(เค้าขับรถมาเองจากจีนเลยนะจ้ะ)

"อีกสี่กิโลถึงฉุยฟง" เสียงข้าวฟ่างบอกผมมาตลอดทาง เสมือนผมมีเนวิเกเตอร์ในการแข่งรถแรลลี่ สักพักบอกว่า "อีกหนึ่งกิโลให้ยูเทิร์น จะถึงแล้วนะ" ในใจผมคิด... ทำไมไม่เห็นมีภูเขาสักลูก นี่มันในเมืองอยู่เลย จะถึงแล้วเหรอเนี่ย??

พอถึงจุดหมายปลายทางตาม google map บอกไว้ เสียงข้าวฟ่างก็ดังชัดขึ้น "นี่ไงขวามือถึงแล้ว ยูเทิร์นด้านหน้านะ" หันไปดู อ้าวชิบ.. นี่มันฉุยฟงจริงๆด้วย ผมยูเทิร์นกลับไปแล้วตบไฟเลี้ยวซ้าย โอ้ถึงแล้ว "ร้านชาฉุยฟง" ถึงแล้วจริงๆเพราะตรงนี้คือหน้าร้านหรือออฟฟิศของบริษัทชาฉุยฟง ไม่ใช่ไร่ชาที่เราอยากไป...แงว..


พอมาผิดที่ข้าวฟ่างหัวเราะ ฮ่าๆๆ ว่าแล้วก็รีบลงรถ(เหมือนละอายใจเล็กน้อยที่พามาผิดที่ ฮ่าๆ)เพื่อไปสอบถามเส้นทางไปไร่ชาที่เราต้องการ เจ้าหน้าที่ให้แผนที่มา โอ้..อีกแค่ 4 กิโลเมตรจากที่นี่ เฮ้อ..โล่งใจมันอยู่ไม่ไกลครับ เราใกล้แล้ว....แค่พลาดไปนิดส์


เราขับรถไปตามแผนที่ครับ อีกประมาณไม่เกินสิบกิโล และแล้วเราก็มาถึงครับไร่ชาฉุยฟง สวยงามจริงๆ กว้างมากกกกกก สุดลูกหูลูกตาเป็นไร่ชาสีเขียวหมดเลย เข้ามาเราเห็นรถของนักท่องเที่ยวจอดอยู่บนเขาไกลลิบๆ นับสิบคัน เราจะขึ้นไปที่นั่นตรงโรงงานผลิตชาและร้านชาของฉุยฟง



ร้านชาของฉุยฟงเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมานั่งจิบชาพร้อมกับสัมผัสบรรยากาศของไร่ชาจากจุดชมวิว ร้านชาที่นี่ทำได้ดี มีเมนูชาทุกอย่างเท่าที่จะหาได้ มีเค้กชาหลายอย่าง มีที่นั่งรองรับนักท่องเที่ยวได้หลายสิบโต๊ะ ผมแอบเห็นที่ส่วนที่กำลังก่อสร้างปรับปรุงขยายเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวให้มากกว่านี้ด้วยละ(แสดงว่าคนเยอะขึ้นเรื่อยๆแน่นอน)


บรรยากาศโดยรวมของไร่ชาฉุยฟงสวยงามมากครับตั้งอยู่บนเนินเป็นระเบียงยื่นลงไปไหล่เขา มีมุมถ่ายรูปสวยหลายที่ นอกจากจุดชมวิวของร้านชาเราสามารถขับรถไปตามยอดเขาเล็กๆ ซึ่งเป็นจุดชมวิวย่อยๆ ของที่นี่ แต่สำหรับวันนี้ผมถ่ายรูปไม่สนุกเท่าไหร่เพราะนักท่องเที่ยวเยอะมาก(อาจเพราะวันศุกร์ด้วย) และเป็นธรรมดาที่เมื่ออากาศเริ่มหนาวนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดก็มากขึ้น




ดูรูปที่เหลือได้ที่นี่ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.560537274026842.1073741828.560531307360772&type=3

ร้านชาของไร่ฉุยฟงปิดเวลาห้าโมงเย็นครึ่ง ทำให้เรามีเวลาในการนั่งชิมชาได้ไม่นานนักเพราะกว่าจะมาถึงก็ปาไปสี่โมงกว่าแล้ว เราลองสั่งชาเขียวมาคนละแก้วและเค้กชาเขียวอีกหนึ่ง รสชาติอร่อยไม่ผิดหวังครับ ชาหอมสุดๆ เค้กใช้ครีมสดอร่อยหอมมัน ไม่หวานมากเกิน กินไปนั่งดูบรรยากาศคนเดินไปเดินมาถ่ายรูปจนลายตา บอกตรงๆครับไม่ค่อยชอบบรรยากาศวุ่นวายแบบนี้เท่าไหร่ (คิดในใจถ้ามาตอนช่วงคนน้อยบรรยากาศจะสุดยอดกว่านี้นะเนี่ย)..





เรากินหมดอย่างรวดเร็วครับ แล้วก็นั่งคิดอยู่ว่าจะไปถ่ายรูปมุมไหนดีนะ ข้าวฟ่างเสนอว่ามีมุมที่ขับผ่านมาตรงนู้นสวยหลายที่เลย โอเค! ผมขับรถย้อนกลับไปที่จุดชมวิวที่ผ่านมาในตอนแรก มุมนี้แหละคนน้อยดี ผมตัดสินใจจอดรถแล้วก็ลงถ่ายรูปเล่นกันตรงนี้ ก็พอถ่ายขำๆแต่ไม่ได้เอาขาตั้งกล้องมาซะนี่สิ! แย่จุงเบย..ใครที่ชอบถ่ายรูปจะรู้ว่าแสงน้อยแบบนี้จำเป็นมากนะครับสำหรับขาตั้งกล้อง แต่ไม่เป็นไรถ่ายพอขำๆ ไม่งั้นนะฮึ่ม..จะได้รูปส่งประกวดกับเขาบ้างสิน่า! ครับเพิ่งเห็นว่าทางไร่ชาฉุยฟงเค้ามีประกวดถ่ายรูปชิงเงินรางวัลตั้ง สามหมื่นบาทแน่ะ!!!





สักพักอากาศเริ่มเย็น แสงอาทิตย์หมดจริงๆครับ ดัน ISO สูงๆก็เริ่มไม่ไหว แถมไม่พออาการหวัดมาแล้ว เอาละซี่เริ่มจามฮัดชิ้วๆ ผมต้องขอตัวเข้าไปนั่งในรถอุ่นๆก่อนนะครับ งั้นหวัดเล่นงานไม่หายง่ายๆแน่นอน อยากหายเร็วๆแล้ว เจอกันการเดินทางครั้งต่อไปนะครับวันนี้แค่นี้ก่อน ลากันด้วยรูปแสงสุดท้ายนะครับ ฮัดดด..ชิ้วววว!






ดูรูปที่เหลือได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.560537274026842.1073741828.560531307360772&type=3



สามารถกด Like เพื่อติดตามการเดินทางของผมได้ที่ facebook fanpage ได้เลย

ตรงไหนผมพลาดไป หรืออยากสอบถามไม่ต้องเกรงใจที่จะ comment นะครับ
กรุณาสุภาพด้วยขอบคุณครับ ^^