Sunday, December 1, 2013

ตามหาต้นกำเนิดกาแฟระดับโลกที่ดอยช้าง ตอนที่ 3 ถึงแล้วครับดอยช้าง

ถึงแล้วครับ กาแฟดอยช้าง ครับที่ผมบอกว่าถึงคือผมขับรถมาถึงร้านและลานตากกาแฟของโรงงานผลิตกาแฟของดอยช้างจริงๆแล้วนั่นเอง! แท่นแท้น...โอ้โหลานกว้างๆมีเมล็ดกาแฟที่ตากอยู่เต็มไปหมดเลยครับ มองไปด้านในเป็นโรงงานใหญ่ๆ มีโลโก้กาแฟดอยช้างเห็นชัดเจน ด้านหน้าโรงงานมีธงชาติไทยผืนเบ้อเริ่มผูกบนเสาธงยักษ์ที่มองไกลๆเหมือนกับต้นไม้ใหญ่ที่โดนไฟคลอกสีดำๆมากกว่า ฮ่า..




ผมขับเลยลานตากไปแล้วเข้าซ้ายจอดรถที่ร้าน A-ROY ผมอ่านว่า "อะหร่อย" หวังคงอ่านถูกนะครับ ร้าน อะหร่อย ผมเดว่าเป็นร้านเพิ่งสร้างใหม่ได้ไม่นานเพราะดูแล้วสภาพร้านยังใหม่ๆเลย เห็นมีโลโก้ดอยช้างและเบียร์สิงห์ติดอยู่ เลยเดาว่าน่าจะเป็นของทางกาแฟดอยช้างเอานั่นแหละ น่าจะสร้างเพื่อรองรับลูกค้าและนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมโรงงานและผ่านไปผ่านมาโดยเฉพาะ

ผมจอดรถที่หน้าร้านโดยไม่ซื้ออะไรเลย หุหุ แล้วเดินย้อนกลับไปที่ลานตากกาแฟของดอยช้างเห็นคนงานสามสี่คนกำลังถือไม้คราดก้มๆเงยๆกวาดหรือเกลี่ยเมล็ดกาแฟบนพื้นที่รองด้วยผ้าใบและเต็มไปด้วยเมล็ดกาแฟ ผมเดินเข้าไปถามประมาณว่ามีที่พักแถวนี้ไหมครับ พี่สาวตอบกลับมาแบบผมฟังไม่รู้เรื่องเลย เลยถึงบางอ้อ อ่อ..พวกเค้าคงไม่ใช่คนแถวนี้ ผมเลยทำหน้าพยักหงึกๆไปตามนั้นเพื่อหวังจะจบการสนทนาให้เร็วที่สุด ฮ่าๆ  เลยถ่ายรูปแชะๆมาสองสามรูปครับ ตอนผมกำลังถ่ายรูปข้าวฟ่างแซวว่า "ถ่ายรูปไปเรื่อยเดี๋ยวเค้าเอาสไนเปอร์ส่องนะ" ผมฟังแล้วก็ชะงักเหมือนกันนะ ฮ่า..แอบกลัวว่าเขาอาจห้ามถ่ายรูปก็ได้นะ?



ผมเดินเข้าประตูหลักของโรงงานดอยช้างในที่สุดก็เจอ "ร้านกาแฟดอยช้างสาขาใหญ่" มองเข้าไปเห็นคนนั่งกินกาแฟหลายคนเลยครับ แอบเห็นลุงหนวดขาวๆเจ้าของดอยช้างด้วยแหะ อิอิ พลันนึกในใจโอ้เราน่าจะรอดแล้ว... ที่สาธารณะแบบนี้ถ่ายรูปได้ไม่น่าโดนยิง ฮ่าๆๆ



ร้านกาแฟที่นี่มีสองชั้นครับ ใช้เครื่องชงกาแฟอย่างดีเลยนะสามหรือสี่หัวกรุ๊ป พนักงานชงก็พูดคุยดี ให้ข้อมูลเยี่ยม ตอนผมเดินไปดูกาแฟที่ชั้นวางที่ดอยช้างขายก็มีพนักงานเดินมาให้ข้อมูลดีมาก ผมขี้สงสัยก็เลยถามนู่นถามนี่เยอะแยะมากมาย กาแฟที่นี่มีเยอะหลายประเภทย่อยจริงๆครับ ทั้งเม็ดเกรดรวม เกรดดีมาก เม็ดพีเบอร์รี่ หรือ เกรดสุดยอดอย่างขี้ชะมด(Cevet Coffee)ก็มี คนชอบกินกาแฟน่าจะชอบเหมือนผม นอกจากกาแฟก็ยังมีชาอู่หลง น้ำผึ้ง หนังสือ แก้ว เสื้อ ผ้าเช็ดหน้า โดยทุกอย่างคือของดอยช้างทั้งหมดครับ อ้อเกือบลืมที่นี่มีเค้กด้วยครับ "ที่สำคัญกาแฟขี้ชะมดแก้วละ 300 บาทค่ะ"




ผมกับข้าวฟ่างสั่งกาแฟคนละแก้วและเค้กอีกสองชิ้น สั่งแล้วก็ขึ้นไปนั่งด้านบนกันครับเพราะอยากเห็นวิวลานตากกาแฟจากด้านบนให้ชัดๆ เดินขึ้นบันไดไม้ขึ้นมาแล้วไม่มีคนเลยแหะ หุหเสร็จโจรแอบเสียบชาร์จแบตมือถือกับเล่นโน๊ตบุ๊คได้สบายเลย อ้อ!เค้ามีบริการ Wifi ฟรีด้วยนะ อย่าคิดว่าอยู่บนดอยแล้วจะตัดขาดจากโลกภายนอกนะตะเองสมัยนี้ไปถึงหมดแล้วจ้า ฮี่ๆๆ วันนี้น้องพนักงานข้างล่างบอกว่าเค้ามีงานสัมมนาเกี่ยวกับกาแฟคนเลยเยอะเป็นพิเศษ มิน่าล่ะผมเห็นแต่รถป้ายทะเบียน กทม. เต็มเลย รู้งี้ลงทะเบียนสัมมนาด้วยก็ดีเนาะ หุหุ

หลังจากินกาแฟกับเค้กเรียบร้อยผมก็เดินลงไปหาซื้ออะไรติดไม้ติดมือเป็นที่ระลึกสักหน่อย เดินตั้งนานได้มาสี่อย่างคือกาแฟดอยช้างเกรดรวม 1 ถุง, หนังสือกาแฟดอยช้าง 1 เล่ม, หนังสือกาแฟขี้ชะมด 1 เล่ม และ แก้วกาแฟช็อตสีดำติดโลโก้ดอยช้าง 1 แก้ว รวมแล้วห้าร้อยกว่าบาทครับ







หลังจากอิ่มกับการเสพบรรยากาศร้านกาแฟ ตอนนี้เราสองคนเริ่มคิดถึงเรื่องที่พักครับว่าจะพักที่นี่หรือกลับบ้านดี ข้าวฟ่างบอกอยากกลับแต่ผมกลับอยากอยู่ต่อ จริงๆแล้วจะกลับ อ.แม่อาย ก็ใช้เวลาไม่นานนะแต่ใจผมอยากนอนค้างที่นี่สักคืนมากกว่าเพราะไหนๆก็มาแล้ว อยากเห็นบรรยากาศหมู่บ้านดอยช้างตอนเช้า อยากเห็นคนเก็บกาแฟ ที่สำคัญขี้เกียจขับรถกลับเหมือนกัน

แต่ปัญหาตอนนี้คือ
  • ผมไม่ได้จองห้องพักล่วงหน้า
  • จะมีห้องเหลือให้เรามั้ยนะ? 
  • ห้องราคาเท่าไหร่? 
  • มีเงินสดติดกระเป๋าแค่ 700 เอง (ไม่น่าซื้อของไปห้าร้อยกว่าเลย)
  • ตู้ ATM ตู้เดียวของที่นี่ เห็นตรงที่เราจอดรถก็ติดป้ายตู้เสีย
  • แถมยังมีคนมาสัมมนาอบรมจาก กทม.เยอะแยะ 
  • และที่พักไปทางไหน? นี่ก็สี่โมงเย็นแล้ว



เราจะไปพักที่ไหนในดอยช้างและอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไปครับ



เพื่อนๆสามารถกด Like เพื่อติดตามการเดินทางของผมได้ที่ facebook fanpage นะครับ
ตรงไหนข้อมูลพลาดไป หรืออยากสอบถามไม่ต้องเกรงใจที่จะ comment นะครับ
ขอความกรุณาคอมเม้นด้วยความสุภาพนะครับ ขอบคุณครับ