ผมจอดรถที่หน้าร้านโดยไม่ซื้ออะไรเลย หุหุ แล้วเดินย้อนกลับไปที่ลานตากกาแฟของดอยช้างเห็นคนงานสามสี่คนกำลังถือไม้คราดก้มๆเงยๆกวาดหรือเกลี่ยเมล็ดกาแฟบนพื้นที่รองด้วยผ้าใบและเต็มไปด้วยเมล็ดกาแฟ ผมเดินเข้าไปถามประมาณว่ามีที่พักแถวนี้ไหมครับ พี่สาวตอบกลับมาแบบผมฟังไม่รู้เรื่องเลย เลยถึงบางอ้อ อ่อ..พวกเค้าคงไม่ใช่คนแถวนี้ ผมเลยทำหน้าพยักหงึกๆไปตามนั้นเพื่อหวังจะจบการสนทนาให้เร็วที่สุด ฮ่าๆ เลยถ่ายรูปแชะๆมาสองสามรูปครับ ตอนผมกำลังถ่ายรูปข้าวฟ่างแซวว่า "ถ่ายรูปไปเรื่อยเดี๋ยวเค้าเอาสไนเปอร์ส่องนะ" ผมฟังแล้วก็ชะงักเหมือนกันนะ ฮ่า..แอบกลัวว่าเขาอาจห้ามถ่ายรูปก็ได้นะ?
ผมเดินเข้าประตูหลักของโรงงานดอยช้างในที่สุดก็เจอ "ร้านกาแฟดอยช้างสาขาใหญ่" มองเข้าไปเห็นคนนั่งกินกาแฟหลายคนเลยครับ แอบเห็นลุงหนวดขาวๆเจ้าของดอยช้างด้วยแหะ อิอิ พลันนึกในใจโอ้เราน่าจะรอดแล้ว... ที่สาธารณะแบบนี้ถ่ายรูปได้ไม่น่าโดนยิง ฮ่าๆๆ
หลังจากินกาแฟกับเค้กเรียบร้อยผมก็เดินลงไปหาซื้ออะไรติดไม้ติดมือเป็นที่ระลึกสักหน่อย เดินตั้งนานได้มาสี่อย่างคือกาแฟดอยช้างเกรดรวม 1 ถุง, หนังสือกาแฟดอยช้าง 1 เล่ม, หนังสือกาแฟขี้ชะมด 1 เล่ม และ แก้วกาแฟช็อตสีดำติดโลโก้ดอยช้าง 1 แก้ว รวมแล้วห้าร้อยกว่าบาทครับ
หลังจากอิ่มกับการเสพบรรยากาศร้านกาแฟ ตอนนี้เราสองคนเริ่มคิดถึงเรื่องที่พักครับว่าจะพักที่นี่หรือกลับบ้านดี ข้าวฟ่างบอกอยากกลับแต่ผมกลับอยากอยู่ต่อ จริงๆแล้วจะกลับ อ.แม่อาย ก็ใช้เวลาไม่นานนะแต่ใจผมอยากนอนค้างที่นี่สักคืนมากกว่าเพราะไหนๆก็มาแล้ว อยากเห็นบรรยากาศหมู่บ้านดอยช้างตอนเช้า อยากเห็นคนเก็บกาแฟ ที่สำคัญขี้เกียจขับรถกลับเหมือนกัน
แต่ปัญหาตอนนี้คือ
- ผมไม่ได้จองห้องพักล่วงหน้า
- จะมีห้องเหลือให้เรามั้ยนะ?
- ห้องราคาเท่าไหร่?
- มีเงินสดติดกระเป๋าแค่ 700 เอง (ไม่น่าซื้อของไปห้าร้อยกว่าเลย)
- ตู้ ATM ตู้เดียวของที่นี่ เห็นตรงที่เราจอดรถก็ติดป้ายตู้เสีย
- แถมยังมีคนมาสัมมนาอบรมจาก กทม.เยอะแยะ
- และที่พักไปทางไหน? นี่ก็สี่โมงเย็นแล้ว
เราจะไปพักที่ไหนในดอยช้างและอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไปครับ
เพื่อนๆสามารถกด Like เพื่อติดตามการเดินทางของผมได้ที่ facebook fanpage นะครับ
ตรงไหนข้อมูลพลาดไป หรืออยากสอบถามไม่ต้องเกรงใจที่จะ comment นะครับ
ขอความกรุณาคอมเม้นด้วยความสุภาพนะครับ ขอบคุณครับ